22 มิถุนายน 2552

@ ไหว้พระ 9 วัดในกรุงเทพฯ (ตอน 1)

เผลอแป๊บเดียววันเวลาปี 2009 ก็ผ่านไปครึ่งปีล่ะ ใครที่ไม่มีเวลาไปท่องเที่ยวในต่างจังหวัดไกลๆ วันนี้จะพาไปสัมผัสแหล่งรวมศิลปวัฒนธรรมไทยอันล้ำค่า ซึ่งอยู่ในเมืองหลวงของเมืองไทยเรานั่นเองกับไหว้พระ 9 วัด อีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะถึงวันสำคัญทางพุทธศาสนาคือวันเข้าพรรษา (วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8) ในเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นเทศกาลทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญเทศกาลหนึ่งในประเทศไทยที่ต่อเนื่องมาจากวันอาสาฬหบูชา (วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8) สิ่งที่พิเศษจากวันสำคัญอื่น ๆ ช่วงเข้าพรรษาตลอดทั้ง 3 เดือน พุทธศาสนิกชนชาวไทยนิยมทำบุญด้วยการเข้าวัดทำบุญใส่บาตร ฟังพระธรรมเทศนา ถวายหลอดไฟหรือเทียนเข้าพรรษา ถวายผ้าอาบน้ำฝน และจตุปัจจัยแก่พระสงฆ์ด้วย เพื่อสำหรับให้พระสงฆ์ได้ใช้สำหรับการอยู่จำพรรษา

นับเป็นโอกาสที่ดีจะได้พาครอบครัว ลูกหลานไปกราบไหว้พระ เพื่อปลูกฝังถึงความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา และความเป็นสิริมงคล ก้าวหน้าในชีวิต นอกจากนั้นยังเป็นการท่องเที่ยวชมความงดงามของวัดวาอาราม ศิลปวัฒนธรรมอันล้ำค่าซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเมืองไทยที่น่าเที่ยวที่สุดแห่งหนึ่ง

คติการไหว้พระ 9 วัด มีความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับพุทธศาสนิกชน นอกจากด้วยคำพ้องเสียงของเลข “9” พ้องกับคำว่า “ก้าว” อันหมายถึงความก้าวหน้าเพิ่มพูน ทั้งในด้านความมั่นคงในชีวิต ความมั่นคงของทรัพย์สิน ความมีชื่อเสียง และความมีเสน่ห์เป็นที่รักของคนทั่วไปแล้ว ชื่อของวัดยังหมายถึงความมีสิริมงคล อันเป็นการสร้างเสริมกำลังใจที่ดีด้วย
วันนี้จะเชิญชวนไปไหว้พระในวัดที่มีความหมายเป็นสิริมงคลของ “ความมั่นคงในชีวิต” กัน





วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่ถนนจักรพรรดิพงษ์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ได้รับการสถาปนาขึ้นใหม่ทั้งพระอาราม ในสมัยรัชกาลที่ 1 วัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีความงดงามโดดเด่นและเป็นที่ตั้งของพระเจดีย์ที่ถือเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของกรุงเทพฯ นั้นคือ บรมบรรพตหรือภูเขาทอง ซึ่งสร้างเป็นรูปภูเขา โดยมีพระเจดีย์สีทองอร่ามอยู่บนยอด รวมความสูง 78 เมตร ผู้ที่ไปวัดนี้สามารถขึ้นไปถึงยอดพระเจดีย์โดยอาศัยบันไดเวียนเป็นทางขึ้น นอกจากจะชมทิวทัศน์อันสวยงามของกรุงเทพฯ บนยอดภูเขาทองแล้ว ยังได้สักการะ “พระบรมสารีริกธาตุ” ที่บรรจุอยู่ในพระเจดีย์เพื่อ “ความเป็นสิริมงคล” และ “ความมั่นคง” ในชีวิต ประดุจภูเขาทองที่ตั้งตระหง่านอย่างมั่นคงเคียงคู่พระนคร
เวลาทำการ 07.30 – 17.30 น. ค่าเข้าชมบรมบรรพต ชาวไทยไม่เสียค่าเข้าชม ชาวต่างชาติ 10 บาท




วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร จากภูเขาทองเดินทางอีกไม่ไกล เป็นที่ตั้งของวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจหลากหลาย โดยเฉพาะเจดีย์ 99 องค์ ซึ่งมากที่สุดในกรุงเทพฯ พระมหาเจดีย์ 4 รัชกาล ประติมากรรมรูปฤาษีดัดตนท่าต่างๆ ซึ่งเป็นสถานที่แรกที่มีการสอนนวดแผนโบราณ และพระนอนขนาดใหญ่มีความยาว 46 เมตร ซึ่งงดงามที่สุดในประเทศ เนื่องจากต้นโพธิ์เป็นไม้ใหญ่ที่มีอายุยืน แผ่กิ่งก้านสาขาแตกใบให้ร่มเงาจึงเชื่อกันว่าการไหว้ “พระพุทธเทวปฏิมากร” ที่วัดโพธิ์ จะทำให้เกิด “ความร่มเย็นเป็นสุข” ในชีวิต
เวลาทำการ 08.00 – 18.00 น. ชาวไทยไม่เสียค่าเข้าชม ชาวต่างชาติ 50 บาท





วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร จากถนนข้าวสาร เพียงข้ามมายังถนนจักรพงษ์ เขตพระนคร ก็จะพบกับวัดสำคัญอีกแห่งหนึ่งคือ วัดชนะสงคราม ซึ่งรัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์และให้เป็นวัดพระสงฆ์ฝ่ายรามัญ เพื่อให้เกียรติแก่ทหารมอญในกองทัพของสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทที่มีชัยชนะในการรบเหนือข้าศึกถึง 3 ครั้ง ผู้ที่ไปวัดนี้ต้องไปสักการะ “พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฏฐ์” พระประธานในพระอุโบสถ ซึ่งด้านหลังองค์พระบรรจุพระอัฐิพระเจ้าลูกเธอกรมพระราชวังบวรฯ ทั้ง 5 รัชกาล ซึ่งจะทำให้เกิดอานิสงส์แห่งความมั่นคงในชีวิต “มีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง”
เวลาทำการ 08.30 – 15.30 น. ชาวไทยไม่เสียค่าเข้าชม ชาวต่างชาติ 250 บาท

หากมีเวลาก็สามารถเดินทางไปกราบไหว้พระกันได้ทุกโอกาส หรือจะถือโอกาสเหมาะในเทศกาลเข้าพรรษาที่ใกล้จะมาถึงเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต ครั้งหน้าจะพาไปไหว้พระ9วัดกันต่อกับวัดที่เสริมสิริมงคลในเรื่องของ “ความมั่งคั่งในทรัพย์สิน”

ที่มา : กองการท่องเที่ยว สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น