30 มิถุนายน 2552

@ ไหว้พระ 9 วัด ในกรุงเทพ (ตอนจบ)

สวัสดีค่ะ...หลังจากที่ต้นตาลได้พาทัวร์เพื่อท่องเที่ยวไหว้พระในเมืองหลวงไปแล้ว 6 วัด ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นวัดที่มีชื่อเสียงและมีความหมายเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตเป็นอย่างยิ่ง ถ้าได้มีโอกาสได้ไปสักการะกราบไหว้กัน

วันนี้ก็จะเป็นตอนจบของการเชิญชวนไปทำบุญ “ไหว้พระ 9 วัด” ก่อนที่จะถึงเทศกาล “วันเข้าพรรษา” โดย 2 ตอนที่แล้วได้พูดถึงการไปไหว้พระกับวัดที่เป็นสิริมงคลในด้าน ความมั่นคง มั่งคั่ง และมีชื่อเสียง กันไปแล้ว ครั้งนี้จะพาไปขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดที่เสริมสร้างความเป็นสิริมงคลด้าน ความมีเสน่ห์เป็นที่รักของคนทั่วไป โดยเริ่มจาก





วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดแจ้ง ตั้งอยู่ที่ถนนอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกใหญ่ เดิมชื่อวัดมะกอก เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา
พ.ศ.2310 เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้เสด็จฯ จากกรุงศรีอยุธยามาถึงหน้าวัดมะกอกตอนรุ่งสาง จึงโปรดเกล้าฯให้เทียบเรือพระที่นั่งเพื่อเสด็จฯ ขึ้นไปสักการะพระมหาธาตุและกำหนดพื้นที่เมืองธนบุรีให้เป็นราชธานี พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อวัดมะกอกว่า “วัดแจ้ง”
“พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก” พระประธานในพระอุโบสถ หล่อขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 2 โดยกล่าวกันว่า พระองค์ทรงปั้นหุ่นพระพักตร์ด้วยพระองค์เอง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ผู้ที่มากราบไหว้เชื่อกันว่าจะทำให้ “มีชีวิตที่รุ่งโรจน์”
เวลาทำการ 07-30 – 17.30 น. ค่าเข้าชมชาวต่างชาติ 50 บาท





วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่บนถนนบำรุงเมือง เขตพระนคร เป็นวัดที่ธำรงอยู่เคียงคู่กรุงรัตนโกสินทร์มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ซึ่งโปรดเกล้าฯให้สถาปนาขึ้น แต่สร้างแล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 3
ภายในพระวิหารประดิษฐาน “พระศรีศากยมุนี” พระพุทธรูปสมัยสุโขทัยที่มีลักษณะงดงามที่สุด หนึ่งในสามองค์ของประเทศ ผนังมีภาพจิตกรรมอันวิจิตรเกี่ยวกับจักรวาล และพระอุโบสถมีความยาวมากที่สุดในประเทศ ผู้ที่มาไหว้พระที่วัดสุทัศนฯ เชื่อว่าจะเป็น “ผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีเสน่ห์แก่บุคคลทั่วไป”
เวลาทำการ 08.00 – 21.00 น. ค่าเข้าชมชาวต่างชาติ 20 บาท





วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่ถนนอรุณอมรินทร์ เขตธนบุรี โดยเจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต กัลยาณมิตร) ได้อุทิศบ้านและซื้อที่ดินบริเวณใกล้เคียงเพื่อสร้างวัดขึ้น เมื่อ พ.ศ. 2368 จากนั้นได้ถวายเป็นพระอารามหลวง รัชกาลที่ 3 จึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามวัดว่า กัลยาณมิตร เนื่องจากพระองค์และพระยานิกรบดินทร์มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันภายในพระวิหารประดิษฐาน “พระพุทธไตรรัตนนายก” หรือ “หลวงพ่อโต” แต่คนไทยเชื้อสายจีนหรือคนจีนเรียกว่า “ซำปอฮุดกง หรือ ซำปอกง” ซึ่งผู้กราบไหว้ต่างขอพรให้ได้พบพาน “เพื่อนที่ดี เป็นกัลยาณมิตร” และ “เดินทางโดยปลอดภัย”
เวลาทำการ 07.00 – 17.30 น. ไม่เสียค่าเข้าชม

ต้นตาลก็ได้พาทัวร์ไหว้พระครบทั้ง 9 วัดแล้วนะคะ วันเข้าพรรษานี้ นอกจากจะชวนลูกหลานไปทำบุญไหว้พระกับวัดแถวๆบ้านแล้ว ก็ลองถือโอกาสวันหยุดในเทศกาลวันเข้าพรรษา ท่องเที่ยวหรรษาแบบครอบครัว ชวนกันไปเที่ยววัดวาอารามกราบไหว้พระ 9 วัดก็ได้นะคะ ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างสุขให้กับครอบครัวแล้วยังถือเป็นการขัดเกลาจิตใจให้กับลูกหลานไปในตัวอีกด้วย


ที่มา : กองการท่องเที่ยว สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น